โปรแกรมที่ไม่พึงประสงค์
โปรแกรมที่ไม่พึงประสงค์
ขณะใช้งานอินเทอร์เน็ต มักมีโปรแกรมที่ไม่พึงประสงค์แฝงมากับข้อมูลที่อยู่บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โปรแกรมลักษณะนี้เรียกว่า มัลแวร์( malware ) เป็นโปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำลาย หรือ รบกวนระบบคอมพิวเตอร์ โดยแบ่งออกได้หลายชนิด เช่น ไวรัส ( virus ) เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เขียนขึ้นเพื่อสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งานและอาจร้ายแรงถึงขั้นทำลายระบบคอมพิวเตอร์ให้เสียหายทั้งระบบ โดยจะทำการแนบโปรแกรมแปลกปลอมเข้าไปกับโปรแกรมอื่น แล้วแพร่กระจายตัวเองจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ ได้ โดยผ่านสื่อบันทึกข้อมูล เช่น แผ่นบันทึก แฟลชไดรฟ์ หรือผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เวิร์ม ( worm ) หรือหนอนคอมพิวเตอร์ เป็นโปรแกรมแปลกปลอมที่สามารถคัดลอกตัวเองแล้วส่งไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ ได้ทันที โดยอาศัยการเจาะผ่านช่องโหว่ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือ อินเทอร์เน็ตที่ไม่มีการป้องกันที่ดีพอ โดยจะเข้าไปกีดขวางการทำงานของระบบปฏิบัติการของเครื่องคอมพิวเตอร์ให้ช้าลง หรือ หยุดทำงาน ม้าโทรจัน ( trojan horse ) เป็นโปรแกรมแปลกปลอมที่ผ่านเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยการแอบแฝงตัวเองว่าเป็นโปรแกรมอื่น เช่น การหลอกให้ผู้ใช้เข้าใจว่าเป็นโปรแกรมเกม หรือ โปรแกรมสกรีนเซิร์ฟเวอร์ ที่ให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดฟรีจากอินเทอร์เน็ต เมื่อผู้ใช้งานดาวน์โหลดโปรแกรมนี้เข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์แล้ว อาจจะมีไวรัสซึ่งติดมากับม้าโทรจันนี้เข้าไปทำความเสียหายให้กับระบบคอมพิวเตอร์ได้ สปายแวร์ ( spyware ) เป็นโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาให้คอยติดตาม บันทึกข้อมูลส่วนบุคคล รายงานข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนบนอินเทอร์เน็ต หรือ ทำการเปลี่ยนการตั้งค่าของโปรแกรมเบราว์เซอร์ใหม่ ซึ่งก่อให้เกิดความรำคาญ และ ทำให้ประสิทธิภาพให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ช้าลง เช่น คีย์ล๊อคเกอร์ ( key-logger) เป็นสปายแวร์ประเภทหนึ่งที่ทำหน้าที่บันทึกข้อมูลการกดแป้นคีย์บอร์ดของผู้ใช้ ข้อมูลที่จัดเก็บจะถูกส่งผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อใช้ก่ออาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ ได้ แอดแวร์ ( adware ) เป็นโปรแกรมแอบแฝงที่เมื่อโปรแกรมได้รับการดาวน์โหลดหรือมีการติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว จะแสดงหน้าต่าง ป๊อปอัพ ( pop – up ) ที่มีการโฆษณาสินค้าออกมาเป็นระยะๆ โดยอัตโนมัติ สแปม ( spam ) เป็นการใช้ระบบส่งอีเมลในการส่งข้อความที่ไม่พึงประสงค์ ให้กับผู้ใช้เป็นจำนวนมาก สแปมที่พบบ่อย คือการส่งข้อความโฆษณาขายสินค้า บริการ ท่องเที่ยว ชักชวนประกอบอาชีพที่มีรายได้สูง ผ่านระบบอีเมลที่เรียกว่า เมลขยะ ( junk mail ) นอกจากนี้อาจมีการส่งผ่านสื่ออื่น เช่น การส่งสารทันที โทรศัพท์เคลื่อนที่ เกมออนไลน์ โปรแกรมค้นหา บล็อก หรือ วิกิ ซึ่งส่งผลให้เกิดการรบกวนการใช้สื่อสารเหล่านั้น
อ้างอิง https://sites.google.com/site/kruyutsbw/5-4-porkaerm-thi-mi-phung-prasngkh
2. ไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือโปรแกรมที่มีเจตนาไม่ดีต่อคอมพิวเตอร์ แบ่งเป็นหมวดหมู่ หรือประเภทอย่างไรบ้าง
ประเภทของไวรัสคอมพิวเตอร์
เราสามารถแบ่งไวรัสที่มีอยู่มากกว่าแปดพันชนิด ตามลักษณะแหล่งที่อยู่ และการฝังตัวของมันได้ดังนี้
ไวรัสประเภท ไม่สามารถทำลายได้โดยการเปิดเครื่องใหม่ เพราะมันจะเริ่มอยู่ในหน่วยความจำตั้งแต่เปิดเครื่อง และจะเมทำงานตลอดเวลานับจากนั้น ไวรัสประเภทนี้เกาะติดไฟล์โปรแกรมไปเรื่อย ๆ และเมื่อพบไฟล์ที่ต้องการก็จะเริ่มทำงานไม่ว่าจะเป็นการแก้ไข การทำลาย การเคลื่อนย้าย เป็นไวรัสที่ร้ายแรงต่อเศรษฐกิจมากกว่าไวรัสประเภทอื่น ๆ กว่าจะพิสูจน์ได้ว่าติดไวรัสแล้ว ข้อมูลที่สำคัญของผู้ใช้ก็อาจหายไปหมดแล้ว
ข้อควรปฏิบัติเมื่อพบไวรัสในขณะทำงาน
http://www.school.net.th/library/snet1/software/virus/index.html
3. บอกรายละเอียด ลักษณะสำคัญของ ไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือโปรแกรมที่มีเจตนาไม่ดีต่อคอมพิวเตอร์ ประเภทต่างๆ
ไวรัสคอมพิวเตอร์
ไวรัสคอมพิวเตอร์เป็นโปรแกรมพิเศษชนิดหนึ่งที่เขียนขึ้นมาเพื่อให้จัดการกับตัวมันเอง โดยมีลักษณะเลียบแบบสิ่งมีชีวิต คือ เจริญเติบโตเองได้ ขยายและแพร่กระจายเองได้ สามารถอยู่รอดได้ โปรแกรมนี้เข้าไปอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ได้ โดยผ่านทาง
จากการที่ไวรัสคอมพิวเตอร์ ทำงานได้ด้วยเงื่อนไขลักษณะใดลักษณะหนึ่งหลายลักษณะ จึงทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของตนติดไวรัสหรือไม่ พอเปิดเครื่องใช้ก็อาจพบว่าระบบคอมพิวเตอร์ของตนถูกไวรัสทำลายเสียแล้ว ไวรัสบางตัวไม่เพียงทำลาย ลบ ล้าง ย้ายข้อมูลของเรา โดยไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น แต่ยังสามารถทำลายโปรแกรมอื่น ๆได้อีกด้วยโดยสังเกตได้จากการที่หน้าจอแสดงผลโดยอาการแปลก ๆ
การแพร่กระจายและการทำงานของไวรัสคอมพิวเตอร์
การแพร่กระจายของไวรัสคอมพิวเตอร์ มีลักษณะคล้ายกับการแพร่กระจายของเชื้อโรคทั่วไป กล่าวคือ ต้องมีพาหะ หรือตัวกลาง เช่น อากาศ น้ำ และพาหะอื่น ๆ ส่วนโลกของคอมพิวเตอร์พาหะที่ว่านั้นก็คือ
ประเภทของไวรัสคอมพิวเตอร์
เราสามารถแบ่งไวรัสที่มีอยู่มากกว่าแปดพันชนิด ตามลักษณะแหล่งที่อยู่ และการฝังตัวของมันได้ดังนี้
ไวรัสประเภท ไม่สามารถทำลายได้โดยการเปิดเครื่องใหม่ เพราะมันจะเริ่มอยู่ในหน่วยความจำตั้งแต่เปิดเครื่อง และจะเมทำงานตลอดเวลานับจากนั้น ไวรัสประเภทนี้เกาะติดไฟล์โปรแกรมไปเรื่อย ๆ และเมื่อพบไฟล์ที่ต้องการก็จะเริ่มทำงานไม่ว่าจะเป็นการแก้ไข การทำลาย การเคลื่อนย้าย เป็นไวรัสที่ร้ายแรงต่อเศรษฐกิจมากกว่าไวรัสประเภทอื่น ๆ กว่าจะพิสูจน์ได้ว่าติดไวรัสแล้ว ข้อมูลที่สำคัญของผู้ใช้ก็อาจหายไปหมดแล้ว
ข้อควรปฏิบัติเมื่อพบไวรัสในขณะทำงาน
อ้างอิงhttp://www.chandra.ac.th/office/ict/document/it/it01/com_11.html
4. บอกวิธีการป้องกันและกำจัดไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือโปรแกรมที่มีเจตนาไม่ดีต่อคอมพิวเตอร์
System Progressive Protection ได้รับการแพร่กระจายไปทั่วอินเทอร์เน็ตหลายพันและติดเชื้อของคอมพิวเตอร์. ไวรัสนี้โดยเฉพาะการติดเชื้อคอมพิวเตอร์เมื่อคนตั้งใจดาวน์โหลดไฟล์ที่มี System Progressive Protection ไวรัส. ครั้งนี้ไฟล์ที่เป็นอันตรายจะถูกดาวน์โหลด, คอมพิวเตอร์ที่ติดเชื้อทันที.
![]() มันอาจจะเป็นเรื่องยากมากที่จะคิดออกที่คุณดาวน์โหลดไฟล์ที่ติดเชื้อที่มีเชื้อไวรัสนี้. แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ที่ System Progressive Protection เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณให้คุณแทนจะต้องมุ่งเน้นการกำจัดมัน. เราจะแสดงให้คุณเห็นว่าวิธีการที่จะกำจัดไวรัสนี้ใช้คู่มือการกำจัดด้านล่าง. แก๊งไซเบอร์ที่ถูกสร้างขึ้น System Progressive Protection จะฉลาดมาก. พวกเขาใช้อินเตอร์เฟซแบบกราฟิกมองในความพยายามที่จะหลอกผู้ใช้คอมพิวเตอร์ให้เชื่อว่ามันเป็นโปรแกรมจริง. อย่างไรก็ตาม, System Progressive Protection ไม่ได้เป็นจริงและไม่ควรเชื่อถือ.
ไวรัสตัวนี้จะทำการสแกนคอมพิวเตอร์ปลอม, แสดงผลการสแกนปลอมและจะระบุว่าคอมพิวเตอร์ของคุณมีการติดเชื้อบาง. คุณไม่ควรเชื่อสิ่งที่ System Progressive Protection รัฐ. สแกน, ผลการสแกนและการแจ้งเตือนการเปิดใช้งานหลอกลวงสมบูรณ์. การติดเชื้อที่แท้จริงเพียงอย่างเดียวคือ System Progressive Protection ตัวเอง.
ไวรัสนี้อย่างต่อเนื่องจะขอให้คุณเปิดใช้งาน System Progressive Protection เพื่อลบการติดเชื้อที่อ้างว่าได้พบ. แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันการใช้งานเช่นนี้ซอฟต์แวร์ปลอม. The System Progressive Protection ปุ่มเปิดใช้งานไม่ได้ไปกำจัดของโปรแกรมนี้และหยุดมันจากการรบกวนคุณ. เพื่อให้ได้รับการกำจัดของ System Progressive Protection จากคอมพิวเตอร์ของคุณคุณต้องใช้ไวรัสโปรแกรมกำจัดมืออาชีพ. เราขอแนะนำ Spyhunter ในขณะที่มันได้รับการออกแบบโดยเฉพาะและการพัฒนาเพื่อจัดการกับไวรัสเช่นนี้. ความพยายามที่จะทำระบบเรียกคืนคอมพิวเตอร์ของคุณจะทำอะไรอย่าง. ผู้สร้างของ System Progressive Protection ได้ปิดการใช้งานความสามารถในการทำระบบเรียกคืนจะเอามันออก. Spyhunter จะทำเสร็จสแกนเต็มรูปแบบของเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ, พบ System Progressive Protection และลบออกอย่างถาวร. เราขอแนะนำ Spyhunter เป็นทางออกที่ดีสำหรับการลบไวรัสเช่นเดียวกับการป้องกันในอนาคต. กรุณาปฏิบัติตามคำแนะนำด้านล่างเพื่อลบ System Progressive Protection ได้ทันที. |
System Progressive Protection
คำแนะนำการกำจัดไวรัส
คำแนะนำการกำจัดไวรัสที่เราได้ระบุไว้ด้านล่างนี้ได้รับการพิสูจน์ลบ System Progressive Protection Virus. คุณต้อง จะอยู่ในคอมพิวเตอร์ที่ติดเชื้อเมื่อทำตามขั้นตอนเหล่านี้.1เพื่อเริ่มต้น, ไปข้างหน้าและรีบูตเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดเชื้อ. หากคอมพิวเตอร์ที่ติดเชื้อจะถูกปิด, ไปข้างหน้าและเปิดใช้งาน.2ทันทีในขณะที่คอมพิวเตอร์เริ่มบูต, กด F8 หลาย ๆ ครั้ง. กด F8 ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงเมนูตัวเลือกขั้นสูง.3เมื่อคุณอยู่ในเมนูตัวเลือกขั้นสูง, ใช้ปุ่มลูกศรของคุณและเลือก Safe Mode with Networking ตัวเลือก. กด ENTER เมื่อคุณได้เลือกตัวเลือกที่. ![]() 4Windows จะบูตเข้าสู่ Safe Mode with Networking. Safe Mode with Networking จะช่วยให้คุณลบSystem Progressive Protection ซึ่งมันจะไม่อนุญาตให้เมื่อ Windows อยู่ในโหมดปกติ.5ตอนนี้ไวรัสจะไม่ทำงานเป็นเวลาที่จะเริ่มการกำจัด. บนคีย์บอร์ดของคุณ, คลิกและ ถือ คีย์ Windows, จากนั้นกดปุ่ม R. ดูแผนภาพแป้นพิมพ์ด้านล่าง. ![]() 6หลังจากที่คุณได้กดของ Windows และ R ที่สำคัญ, กล่องเรียกใช้ Windows จะเปิด. ประเภทว่าต่อไปนี้ลงในช่องเรียกใช้และคลิก OK:
iexplore http://www.spywarehelpcenter.com/removal
![]() หลังจากที่คลิก OK, คอมพิวเตอร์ของคุณจะเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและดาวน์โหลดโปรแกรมกำจัดไวรัสที่แนะนำของเราที่เรียกว่า Spyhunter.7เมื่อคุณเห็น Spyhunter กล่องดาวน์โหลด, คลิกปุ่ม Run. ภาพของกล่องดาวน์โหลดอยู่ด้านล่าง. หลังจากที่คุณคลิก “เรียกใช้” ปุ่ม, Spyhunter จะเปิดตัว. หากคอมพิวเตอร์ของคุณจะถามว่าคุณแน่ใจว่าคุณต้องการเรียกใช้Spyhunter, คลิก OK. The Spyhunter การติดตั้งจะเริ่มต้น. หลังจากที่ติดตั้งอย่างเต็มที่ Spyhunter การสแกนไวรัสอัตโนมัติจะเริ่มต้น. ![]() 8หลังจากที่ Spyhunter ได้สแกนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณคุณจะเห็น System Progressive Protection ชื่อไวรัสในผลการสแกน. เพียงแค่คลิก "แก้ไขภัยคุกคาม" เพื่อลบไวรัส.9หลังจากที่คุณคลิก "แก้ไขปัญหาภัยคุกคาม" คุณจะต้องลงทะเบียน Spyhunter ในการลบ System Progressive Protection. กรุณาลงทะเบียน Spyhunter และไวรัสจะถูกลบออก. ลงทะเบียน Spyhunter มีประโยชน์ที่เหนือกว่ารวมทั้งเรียลไทม์การป้องกันภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องที่อาจเกิดขึ้น.Spyhunter จะตรวจจับและลบภัยคุกคามใด ๆ ในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นรวมถึงไวรัส, สปายแวร์, โทรจัน, การติดเชื้อรีจิสทรีและอื่น ๆ. เป็นโซลูชั่นที่ all - in - หนึ่งที่ดีสำหรับความต้องการความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ของคุณและนั่นคือเหตุผลที่เราขอแนะนำให้.10หลังจากที่คุณได้ลงทะเบียน Spyhunter, และไวรัสจะถูกลบออก, คุณสามารถรีบูตเข้าสู่โหมดปกติ. TheSystem Progressive Protection ไวรัสจะหายไปอย่างสมบูรณ์. |
อ้างอิง http://www.spywarehelpcenter.com/system-progressive-protection-virus-removal-instructions/?lang=th
5. ยกตัวอย่างโปรแกรมที่ใช้ในการป้องกัน และกำจัดไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือโปรแกรมที่มีเจตนาไม่ดีต่อคอมพิวเตอร์ ที่ได้รับความนิยม มาอย่างน้อย 5 โปรแกรม
1. AVG Antivirus Free Edition 2011: เป็นโปรแกรมที่สามารถป้องกันไวรัสและสปายแวร์ ตัวใหม่ๆ ได้ เช่น ไวรัสที่มากับ E-mail เพราะทุกวันนี้ไวรัสและสปายแวร์จะมีการอัพเดทความสามารถในการทำลายอยู่ตลอด ดังนั้นเราก็ควรอัพเดทโปรแกรมที่มีอยู่และอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ๆ ของโปรแกรมอยู่ตลอดนะจ๊ะ ถ้ายังไม่มีโปรแกรมสแกนไวรัส ลองใช้โปรแกรมที่ติดอันดับต้นๆ ของการดาวน์โหลดอย่าง AVG Antivirus Free Edition 2011 มาลองใช้กันได้นะจ๊ะ


2. Avira AntiVir Personal Free Edition: สามารถกำจัดไวรัสได้มากว่า 300,000 ชนิด มีการอัพเดท ข้อมูลไวรัสในเครื่องของเราแบบอัตโนมัติ ทำให้โปรแกรมไม่ล้าหลัง และตามไวรัสตัวใหม่ๆ ได้ทัน โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบเล่นอินเทอร์เน็ต และชอบดาวน์โหลด ทั้งหลาย แต่บางทีเวลาที่เราสแกน โปรแกรมก็ชอบลบข้อมูลบางอย่างออกไปด้วย และไม่ค่อยซับพอร์ตโปรแกรมอื่นเท่าไหร่ค่ะ


3. Avast Free Antivirus: สามารถป้องกันไวรัส Spyware หรือ Malware ต่าง ๆ ที่แฝงตัวมากับเว็บไซต์ไม่ให้เข้ามาทำร้ายข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราได้ การสแกนสามารถสแกนได้ทั้งไฟล์ที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ และสแกนขณะที่บู๊ตเครื่องก็ได้ค่ะ โดยโปรแกรมจะตรวจจับไวรัสและกำจัดไวรัสให้ทันทีที่พบ และในปัจจุบันโปรแกรมสามารถรองรับภาษาได้มากกว่า 19 ภาษา เป็นโปรแกรมที่มีขนาดเล็ก กระทัดรัด สามารถใช้งานได้ง่าย ที่สำคัญไม่หนักเครื่องด้วยนะจ๊ะ


4. PC Tools AntiVirus Free: โปรแกรมนี้ก็จะช่วยป้องกันเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราไม่ให้ติดไวรัสได้ง่ายๆ ซึ่งเหมือนกับโปรแกรมสแกนไวรัสตัวอื่น ๆ สำหรับโปรแกรมนี้สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี แต่ขนาดของไฟล์อาจจะค่อนข้างใหญ่ และอาจทำให้หนักเครื่องอยู่บ้างนะค่ะ



5. Microsoft Security Essentials: สำหรับโปรแกรมนี้ เป็นโปรแกรมที่สามารถตรวจสอบและกำจัดไวรัสหรือสปายแวร์ได้เกือบทุกรูปแบบ ไม่ว่าไวรัสจะเปลี่ยนสถานะในการเข้าถึงข้อมูลของเราเป็นอย่างไรก็ตาม โปรแกรมก็จะตรวจพบไวรัสได้อยู่ดี ถ้าใครยังไม่มีโปรแกรมสแกนไวรัสลองโหลดโปรแกรมตัวนี้ไปใช้ดูนะคะ เพราะเป็นโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นมาโดยบริษัท Microsoft เองซึ่งน่าจะช่วยให้ผู้ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ในระบบปฏิบัติการ Windows อุ่นใจขึ้นได้อีกเยอะเลยค่ะ
อ้างอิง http://www.techxcite.com/topic/4217.html
6. ดาวน์โหลด โปรแกรม Nod32 พร้อมแสดงวิธีการติดตั้งและใช้งาน รวมทั้งวิธีการอัพเดท ให้ทันต่อไวรัส
เป็นแชร์แวร์ป้องกันไวรัสที่ให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ 30 วัน หากใช้งานแล้วชอบต้องการซื้อหา License ของแท้แบบไม่ crack สนนราคาที่ 40 เหรียญครับ เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดที่มีจุดเด่นที่การใช้งานการตรวจจับไวรัสเทคโนโลนีใหม่แบบปุยเมฆ หรือแบบเบาๆ Cloud นั้นเอง
การติดตั้งโปรแกรมจะตรวจจับและแสดงภาษาใช้งานที่รองรับของเครื่องเราอัตโนมัติ:
1 บนหน้าต่าง welcome screen, เลือกภาษาที่ต้องการจากนั้นคลิก Install เพื่อติดตั้ง
การติดตั้งโปรแกรมจะตรวจจับและแสดงภาษาใช้งานที่รองรับของเครื่องเราอัตโนมัติ:
1 บนหน้าต่าง welcome screen, เลือกภาษาที่ต้องการจากนั้นคลิก Install เพื่อติดตั้ง
2เงื่อนไขการใช้งานโปรแกรม, คลิก I Accept to continue.
3 หน้าต่างถัดมา, เลือก check boxes ถัดจากYes, I want to participate (recommended) และ Enable detection (แนะนำให้เลือก) จากนั้นคลิก Next
4 คอยจนการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์, คลิก Finish เพื่อออกจากการติดตั้งวิเศษเครื่องมือ
5 ถ้าเราติดตั้งโปรแกรม ESET security บนคอมพิวเตอร์ของเราครั้งแรก, หน้าต่าง Activation window จะแสดงขึ้นมาอัตโนมัติ ถ้าเราดาวโหลดรุ่นทดลองใช้งาน Trial ให้คลิกเลือกตัวเลือกที่ 3 และทำตามขั้นตอนการ Activation ของโปรแกรมจนจบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น